“ธรรมนัส”สนองนายกฯ ทันควัน เซ็นหนังสือด่วนถึง 3 กรมในสังกัด “ปศุสัตว์-ประมง-กรมวิชาการเกษตร” ปราบสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยเฉพาะหมู-เนื้อเถื่อน ฮึ่ม ขรก.ด่านไหนปล่อยให้สินค้าเกษตรเถื่อนหลุดเข้าไทย และดีเอสไอจับได้ เจอฟัน ม.157 ด้านดีเอสไอออกหมายจับเพิ่ม บ.ชิปปิ้ง-นายทุนรวม 5 ราย เอี่ยวนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ลงนามหนังสือด่วนถึง 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ให้เข้มงวดการตรวจสอบ กักกัน และดำเนินคดีสินค้าเกษตรเถื่อนผิดกฎหมาย ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงกังวล และเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินคดีปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนผิดกฎหมาย โดยเฉพาะหมูและเนื้อหมูเถื่อน ซึ่งมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นหน่วยงานหลักในการจับกุมและดำเนินคดีผู้ลักลอบนำเข้าไทย
“เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายนำเข้าสินค้าเกษตรมีประสิทธิภาพ ได้เน้นย้ำและกำชับหน่วยงานปฏิบัติของทั้ง 3 กรมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และด่านนำเข้าทุกด่าน เข้มงวดตรวจสอบ กักกันและดำเนินคดี หากพบมีการจับกุมผู้ทำความผิดในพื้นที่ใดจากหน่วยงานดีเอสไอ กระทรวงเกษตรฯจะถือว่าด่านหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้นมีความผิด ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หากพบทำความผิดจะถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาด้วยเช่นกัน”รมว.เกษตรฯกล่าว และว่า การปราบปรามสินค้าเกษตรที่นำเข้าผิดกฎหมาย ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนสำคัญที่ตนให้ความสำคัญและเน้นย้ำมาต่อเนื่อง โดยตั้งชุดเฉพาะกิจทำงานร่วมกับตำรวจ ทหาร กรมศุลกากร และดีเอสไอ พร้อมสนับสนุนข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมาถึงที่สุด โดยเฉพาะหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ได้ปูพรมตรวจสอบดำเนินการมาต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบเกษตรกรรายย่อย และกลไกตลาด
วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยหลังประชุมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 กรณีนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนายกฯสั่งเร่งแก้ปัญหาว่า ดีเอสไอรับดำเนินคดีของกลางซากเนื้อหมูเถื่อน 161 ตู้ ที่ยึดจากท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อสอบสวนขยายผลพบการทำผิดของบุคคลกลุ่มแรกคือ บริษัทชิปปิ้งนำเข้า ซึ่งแจ้งข้อหาแล้ว 5 บริษัท 6 ราย โดยวันนี้ออกหมายจับเพิ่มอีก 3 บริษัทจำนวน 3 ราย และเมื่อขยายผลสอบสวนพบว่ากลุ่มบริษัทชิปปิ้ง ลักลอบนำเข้ามาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปี 2563-2566 ในลักษณะคล้ายกัน 2,836 ตู้ จึงแยกเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งคดี มีกลุ่มนายทุนเป็นผู้ว่าจ้างให้บริษัทชิปปิ้งนำเข้ามาจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
พ.ต.ต.สุริยากล่าวต่อว่า กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มนายทุนที่สั่งหมูเถื่อนเข้ามา ดีเอสไอออกหมายจับแล้ว 2 ราย ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ล่าสุดประสานขอเข้ามอบตัว คาดไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นคนสำคัญที่นำเนื้อหมูเถื่อนไปฝากไว้ห้องเย็นจ.สมุทรสาคร 7.5 ตัน และอีกกลุ่มที่ดูแลห้องเย็นที่กระจายหมูเถื่อนไปแช่ที่ต่างๆ จะมีพยานเข้าให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามแก้ปัญหาหมูเถื่อนของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเข้มข้น ทำให้ผู้ทำผิดเปลี่ยนรูปแบบการลักลอบนำเข้า เป็นลักษณะกองทัพมด โดยนำมาพักไว้ประเทศเพื่อนบ้านก่อนส่งเข้ามาในไทย ในทางคดีพบเบาะแสเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ มีข้าราชการเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งจะคืบหน้าชัดเจนภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
