อธิบดีกรมปศุสัตว์ สนองนโนบาย รวม.เฉลิมชัย หลังสั่งเข้มกำจัดการลักลอบนำเข้าวัวเถื่อนผ่านชายแดน ล่าสุด ชุดเฉพาะกิจสกัดคาราวานรถที่ลักลอบนำเข้าวัวจากเมียนมา ข้ามมาฝั่งไทยผ่านชายแดนจังหวัดตาก
จับผู้กระทำผิดได้ 5 คน ตรวจยึดรถกระบะ 5 คันที่บรรทุกวัวรวม 30 ตัว นำส่งดำเนินคดีที่สภ. ท่าสองยางแล้ว ย้ำยังลาดตระเวนเฝ้าระวังเข้มตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมาตามประกาศชะลอการนำเข้าสัตว์เท้ากีบจากเมียนมาเพื่อป้องกันโรคระบาดปากและเท้าเปื่อย
26 พ.ค. 66 – นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดว่า เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ค ที่ผ่านมา สารวัตรปศุสัตว์ตากร่วมกับชุดเฉพาะกิจด่านกักกันสัตว์ กำแพงเพชร-ชัยนาท จับกุมคาราวานลักลอบนำเข้าโคจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาราชอาณาจักร ผ่านทางอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
ทั้งนี้เป็นการวางแผนจับกุมจากการได้รับเบาะแสจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบนำเข้าผ่านแดนและส่งไปยังอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ด่านกักกันสัตว์ตากจึงตั้งจุดสกัดถึง 2 จุดคือ ที่จุดตรวจทหารพรานที่ 3504 แยกบ้านแม่พล บนทางหลวงหมายเลข 105 ตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง อีกจุดคือ บนถนนหมายเลข 1267 หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
จนกระทั่งเมื่อเวลา 20.50 น. มีรถกระบะ 5 คัน ขับมาบนทางหลวงหมายเลข 1267 เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเรียกให้รถยนต์ดังกล่าวหยุดจอด จากการตรวจสอบพบว่า คาราวานรถบรรทุกโคมีชีวิต เพศผู้มารวม 30 ตัว เมื่อสอบถามผู้ขับขี่ ให้การเบื้องต้นว่า เคลื่อนย้ายโคทั้งหมดจากต้นทางที่บ้านแม่สลิด หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยางเพื่อไปส่งที่บ้านแม่ระเมิง หมู่ที่ 8 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง โดยเมื่อนำโคที่บรรทุกมาลงที่บ้านแม่ระเมิงแล้ว จะมีรถบรรทุกจากอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่มารับช่วงต่อเพื่อเคลื่อนย้ายโคไปยังปลายทางที่อำเภออมก๋อย
เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ (ร.3) จากผู้ขับขี่ แต่ไม่สามารถนำมาแสดงได้ จึงจับกุมตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เนื่องจากจังหวัดตากได้กำหนดให้ท้องที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอในจังหวัดตาก เป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบจำพวกโค กระบือ สุกร แพะ และแกะ โดยการเคลื่อนย้ายสัตว์แต่ละครั้งต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย บทกำหนดโทษตามมาตรา 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นนำตัวผู้กระทำผิด รวมถึงของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจภูธรท่าสองยางเพื่อดำเนินคดีต่อไป