ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบนี้ เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลทันทีในวันพรุ่งนี้ จะทำให้เงื่อนไขกระจายวัคซีนสะดวกขึ้น และตามนิยามข้อ 4 นอกจากผู้ฉีดวัคซีนจะหมายถึงสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์แล้ว ยังรวมถึงสัตวแพทย์ที่ขึ้นทะเบียน และมีใบประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ สัตว์แพทย์หน่วยงานอื่นๆที่ตกลงร่วมกันระงับโรคนี้ สัตวแพทย์ของมหาวิทยาลัย สัตวบาลและอาสาปศุสัตว์ ที่ผ่านการอบรมป้องกันโรคระบาดด้วย
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงนามเห็นชอบหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่สัตว์เลี้ยงตาย หรือหาย จากเหตุภัยพิบัติ เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจะส่งไปยังหลักเกณฑ์นี้ไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มค่าเยียวยาแก่เจ้าของสัตว์หลายประเภท ทั้งโค-กระบือ สุกร แพะ แกะ ไก่ เป็ด และห่าน เป็นต้น โดยยึดจากราคากลางปศุสัตว์ และราคาท้องตลาดที่เป็นจริงและปรับตัวสูงขึ้นจากเกณฑ์เดิม
เช่นโค จากเดิมรายละไม่เกิน 2 ตัว เปลี่ยนเป็น 5 ตัว จากตัวที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน ได้ 6 พันบาท เป็น 1 หมืน 3 พันบาท ตัวที่อายุมากกว่า 2 ปี ขึ้นไป ได้ 2 หม่น เป็น 3 หมืน 5 พันบาท เป็นต้น
ขณะที่รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุว่า ขณะนี้มีโคกระบือป่วยจากลัมปีสกิน ราว 75,000 ตัว ตายจากโรคลัมปีสกิน 2,866 ตัว ตายแต่รอการยืนยันโรค 4,515 ตัว ทุกตัวที่ได้ผ่านการตรวจสอบและยืนยันจากประชาคมหมู่บ้านจะได้รับการชดเชย
เกณฑ์การเยียวยาดังกล่าว ยังต้องรอข้อเสนอจากกระทรวงการคลัง แต่ระเบียบใหม่เพื่อกระจายและฉีดวัคซีนลัมปีสกิน จะมีผลพรุ่งนี้ พร้อมกับที่กรมเสนอต่อรัฐาสภาพเมื่อวานว่า สนับสนุนให้องค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีความพร้อม เปิดตำแหน่งหรือตั้งอัตรา สัตวบาลเพื่อทำหน้าที่เหมือนปศุสัตว์ แต่ขึ้นตรงกับท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งเป็นทั้งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและเข้าถึงเกษตรกรได้สะดวกขึ้น